วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หนี้กรรม (ตอนที่ ๒)

สวัสดีค่ะ  ท่านผู้อ่านทุกท่าน....อ่านเรื่องหนี้กรรมตอนที่ ๑  จบไปแล้ว  ท่านรู้สึกจิตใจเป็นอย่างไรบ้างคะ  คงจะสงสารหนูมากกว่าสมน้ำหน้านะคะ  สัตว์ก็มีวิบากกรรมเหมือนกับคน  เพราะเหตุว่ามีขันธ์ ๕ เหมือนกัน สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ  ตน.....การที่ได้เกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉานก็เพราะว่าผล (วิบาก) ของอกุศลกรรมมีกำลังแรงกว่าผลของกุศลกรรม  เมื่อเกิดเป็นสัตว์ก็ไม่สามารถที่สร้างบุญกุศลอะไรได้เหมือนกับมนุษย์ ถึงแม้ว่าจะมีขันธ์ ๕ เหมือนกันก็ตาม  ก็จะมีแต่เวียนวายตายเกิดอยู่ในอบายภูมิเรื่อยไป  จนกว่าผลของกุศลกรรมในชาติก่อน ๆ  จะส่งผลให้เกิดในภูมิมนุษย์

วันนี้ฉันก็จะขอเล่าเรื่องหนี้กรรมต่อเลยนะคะ  เพื่อไม่ให้เสียเวลารอคอยกันนานนัก  บางท่านก็อาจจะรอมาหลายวันแล้ว เพราะอยากจะทราบว่าหลังจากพวกหนูมันตายกันหมดแล้ว  ยังจะมีพิษสงอะไรอีกหนอ.....  กรรมที่ได้กระทำสำเร็จครบองค์แล้ว ย่อมมีผลหรือวิบากตามเหตุตามปัจจัย  ผลของกรรมจะส่งผลส่งผล  เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมแล้ว ที่จะให้ผลของกรรมเกิด ผลของกรรมก็ย่อมเกิด ถ้าเป็นกรรมที่มีกำลังแรงเพราะเหตุว่าเป็นกรรมที่ประกอบด้วยเจตนา  ผลหรือวิบากกรรมก็ย่อมส่งผลเร็วกว่ากรรมที่ไม่ประกอบด้วยเจตนา.....เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวของคุณหน่อยและคุณพิชัย หลังจากที่หนู ๔ ตัวพ่อแม่เลูก ได้ตายเพราะความเหนียวของกาวแล้ว  การตายของพวกหนูเหล่านี้ ก็เป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ไม่มีใครสามารถช่วยได้  คุณหน่อยเองก็ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าพวกเขาหรอกนะ  แต่ว่าคงจะเป็นวิบากกรรมของพวกหนูด้วย จึงต้องมาตายในลักษณะเช่นนั้น  กรรมที่คุณหน่อยได้กระทำสำเร็จไปแล้วนั้น  ก็ได้ส่งผลอย่างรวดเร็วเกินคาด
เรื่องของวิบากกรรมเป็นเรื่องที่วิจิตรมากและยุติธรรมมาก  ใครทำกรรมเช่นใดไว้ก็จะต้องได้รับผลของกรรมเช่นนั้น

มีอยู่วันหนึ่งหนูตุ๊กตาลูกสาวคนเล็กวัย ๕ ขวบ  หลังจากเลิกเรียนโรงเรียนอนุบาล  พอกลับถึงบ้านเธอคงจะหิวมาก  จึงรีบวิ่งเข้าครัวเพื่อที่จะหาอะไรกิน  ตอนนั้นยังอยู่ในชุดนักเรียน  ยังไม่มีเวลาเปลี่ยน เพราะว่าหิวจัด  เธอจึงได้ปีนขึ้นบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ที่ตั้้งอยู่คู่กับโต๊ะอาหารในครัว  เพื่อที่จะเอาของกิน (ขนม) ที่อยู่บนโต๊ะ เธอยังเด็กยังเล็กมาก ไม่ได้คิดอะไร  รู้แต่ว่าหิวก็จะเอาของกินให้ได้  เก้าอี้ที่เธอปีนขึ้นไปนั้น  ได้มีกระติกน้ำร้อนตั้งอยู่บนเก้าด้วย  มันก็เป็นเรื่องแปลกดีนะ  ที่กระติกน้ำร้อนตั้งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่หนูน้อยตุ๊กตาต้องการจะปีน  ทำไมจะต้องเจาะจงปีนเก้าอี้ตัวที่มีกระติกน้ำร้อนตั้งอยู่ด้วย  ทำไมไม่ปีนที่ตัวอื่น  และทำไมต้องเอากระติก มาตั้งไว้บนเก้าอี้ในวันนั้นด้วย  ทั้ง ๆ ที่ปรกติจะตั้งอยู่บนโต๊ะ  หนูตู๊กตาก็ไม่ได้สนใจกระติกน้ำร้อนเลย สนใจอย่างเดียวคือเรื่องของกิน  บังเอิญพอปีนขึ้นไป ยังไม่ทันจะยืนบนเก้าอี้  กระโปงเจ้ากรรมทำเรื่องอย่างช่วยไม่ได้เลย  ดันไปปัดเอากระติกน้ำร้อนหล่นลงมาพร้อมกับหนูน้อยผู้น่าสงสาร  ร่างน้อย ๆ ได้ตกลงมานอนฟุบอยู่กับพื้นห้องอย่างไม่เป็นท่า  กระติกน้ำหล่นลงมากระทบกับพื้นด้วยความแรง  เกิดเสียงดังเหมือนสนั่นลั่นบ้าน  ฝากระติกน้ำกระเด็นไปคนละทิศคนละทางกับตัว  ทันใดนั้นน้ำร้อนน้ำในกระติกซึ่งร้อนจัดแบบจัด ๆ  ได้ไหลออกมาลวกขาน้อย ๆ ของเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา  พ่อแม่ของเธอได้รีบนำเธอส่งโรงพยาบาลโดยเร็วด่วน....

ระหว่างที่รอการตรวจเช็คจากแพทย์ทางโรงพยาบาล  คุณหน่อยได้เล่าว่า  เธอได้เห็นหนูวิ่งผ่านหน้าเธอไปหลายตัว  จึงเป็นเหตุให้เธอนึกขึ้นได้ว่าหนูพวกนี้เขาได้มาทวงหนี้กรรมกับเธอแล้ว  เธอทราบดีว่าที่ลูกสาวเธอต้องโดนน้ำร้อนลวกเจ็บแสบที่ท้าวและที่ขานั้น  มันเป็นอาการเหมือนที่พวกหนูเขาเป็น  ลูกสาวเธอต้องนอนรักษาแผลซึ่งถูกน้ำร้อนลวกเหวอะหวะอยู่เป็นเวลานานถึง ๒ สัปดาห์  ขณะนั้นที่เธอนอนเฝ้าลูกอยู่ที่โรงพยาบาล พวกหนูก็ได้พากันมาปรากฏให้เธอเห็นอยู่บ่อย ๆ  จะเห็นหนูวิ่งอยู่ที่พื้นห้องหลายตัว  ทั้ง ๆที่ห้องนอนของโรงพยาบาลก็สะอาด ไม่น่าจะมีหนูมาซุกซ่อนอยู่ในที่นั้นได้  แต่ทว่าหนูพวกนี้เขาวิ่งผ่านหน้าแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว  ก็คงจะเป็นวิญญาณที่ยังอาฆาตพยาบาทกันอยู่.....เมื่อทราบว่าเป็นวิญญาณพวกหนูที่ตายไปเมื่อ ๓ วันก่อนนี้  คุณหน่อยจึงได้สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้พวกหนูทุกตัวทุกตนมีความสุขอย่าได้มาจองเวรจองกรรมกันอีก  หลังจากนั้นเธอก็ไม่เห็นวิญญาณของพวกหนูอีกเลย  ส่วนลูกสาวของเธอก็ได้ชดใช้กรรมที่แม่ได้ทำไว้แล้ว  ทุกวันนี้ที่ขาทั้งสองข้างของหนูตุ๊กตาก็ยังมีรอยแผลเป็นอยู่ เสมือนหนึ่งเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนในบ้านว่า "ไม่ควรเบียดเบียนสัตว์"......ครอบครัวนี้เขาเป็นคนใจบุญ  สวดมนต์ภาวนาท้งครอบครัว  แต่ที่ได้กระทำกรรมกับพวกหนูก็คงจะเป็นเพราะว่าเคยกระทำกรรมเช่นนี้มาแล้วแต่ปางก่อน