สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน....เป็นยังไงบ้างคะ หวังว่าคงสบายดีกันนะคะ ตั้งแต่ขึ้นปีใหม่มานี่ ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ ตอนนี้ที่สวิตเซอร์แลนด์อากาศหนาวมาก บางวันหนาวมาก ๆ หนาวชนิดทำลายสถิติเมื่อ ๒๘ ปี ว่าหนาวมากแล้วนะ แต่ปีนี้ยังเก่งกว่ามาก ถึงจะมีหิมะตกมากมายขนาดไหน แต่การสัญจรก็ไม่ถึงกับชะงักหรอกนะ เพราะทางเทศบาลเขาบริหารงานดี พอหิมะลงเขาก็รีบนำรถออกกวาดทั้งคืนทั้งวัน แต่ตามบ้านหรือตามสำนักงานบางครั้งก็แย่หน่อย เพราะว่าเครื่องทำความอุ่น ทำงานหนักมากเกินกำลัง ก็ทำให้เสียอย่างกระทันหันได้ กว่าช่างจะมาซ่อมให้ ก็หนาวแทบจะแย่ตาม ๆ กัน อยากรู้ว่าหนาวขนาดไหนก็ลองนึกดูว่า เหมือนกับอยู่ในตู้เย็น หรือไม่ก็ตู้แช่แข็งนั่นแหละ
วันนี้ฉันก็มีเรื่องมาเล่าสู่กันอ่านอีก เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมและผลของกรรม พูดถึงเรื่องกรรม ทุกท่านก็รู้จักกันดีว่า "กรรม" หมายถึงการกระทำ ซึ่งมีการกระทำได้แค่ ๓ ทางเท่านั้น คือ ทางกาย ทางวาจาและทางใจ....คำว่า "กรรม" เป็นนามธรรม ไม่ใช่จิต แต่เป็น "เจตนาเจตสิก" มีลักษณะจงใจ ตั้งใจ ปรารถนา ขวนขวาย เจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง ทั้งกุศลจิตและอกุศลจิต....ชีวิตแต่ละวันหนีไม่พ้นกรรมและผลของกรรม ถ้าเป็นผู้ที่ละเอียด ก็จะสามารถสังเกตได้ แม้ขณะนี้กำลังเห็น ถ้าเห็นสิ่งที่ไม่น่ายินดีพอใจ ก็รู้ว่าเป็นผลของอกุศลกรรม ที่ได้กระทำไว้แล้ว หลังจากที่เห็นแล้ว ก็อาจจะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ได้ แล้วแต่จะพิจารณาขณะนั้น ชีวิตก็ดำเนินไปเช่นนี้ทุกวัน ทุกคนมีกรรมและผลของกรรมเป็นของ ๆ ตน
มีสมาชิกท่านหนึ่ง ยินดีที่จะเผยแพร่เรื่องกรรมและผลของกรรมที่ตนได้ประสบมาด้วยตนเอง....คุณแจ๋วเจ้าของเรื่องที่จะเล่านี้ อดีตเธอเคยเป็นนางพยาบาล อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิษณุโลก เธอเป็นคนสนใจและใฝ่ใจในธรรมท่านหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็มักจะไปเข้ากรรมฐานที่วัดกับเพื่อนเสมอ เพราะเธอเห็นประโยชน์ของพระธรรม จึงได้หันมาฟังธรรมและศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูก เพื่อความเห็นถูก และเพื่อละความไม่รู้ทีละน้อย จนทุกวันนี้เธอสามารถอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุข โดยมีธรรมะเป็นที่พึ่ง.....เธอได้เล่าว่า มีอยู่ระยะหนึ่งเธอได้เว้นว่าจากการไปเข้ากรรมฐานปฏิบัติธรรมที่วัด แล้วคืนวันหนึ่งเธอก็ได้ฝันเห็นพวกหนู ที่เธอเคยเบียดเบียนชีวิตพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเกิดสำนึกในบาปที่ตนได้กระทำไว้กับพวกหนูเหล่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะต้องไปเข้ากรรมฐานปฏิบัติธรรมที่วัดสักแห่ง เพื่อที่จะได้อุทิศส่วนกุศลให้แก่พวกหนูโดยเฉพาะ จึงได้โทรไปชวนเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเคยไปเข้ากรรมฐานด้วยกันมาแล้วหลายครั้ง เพื่อนเธอก็ได้ตกลงทันที่ที่คุณแจ๋วชักชวน ทั้งสองคนต่างก็ดีใจที่จะได้ไปสร้างบุญกุศลร่วมกันอีก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ได้มาตัดรอนการบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ซะก่อน เรื่องมีอยูว่า ก่อนวันที่จะไปเข้ากรรมฐาน ๑ วัน เพื่อนของคุณแจ๋วได้โทรมาบอกว่า เธอไม่สามารถจะไปเข้ากรรมฐานด้วยได้ เพราะเหตุว่าเมื่อวานได้ไปตลาด พอกลับถึงบ้าน เธอนึกได้ว่าลืมของไว้ที่ตลาด จึงได้กลับไปที่ตลาด อีกครั้ง พอไปถึงตลาดก็ไปโดนไม้เสียบลูกชิ้นที่วางอยู่บนถนน ทิ่มเข้าที่เท้าลึกมากบาดเจ็บไม่สามารถเดินได้ ต้องให้เวลารักษาหลายวันจึงจะเดินได้ เป็นอันว่าคุณแจ๋วก็ต้องเลื่อนการเข้ากรรมฐานให้หนู ไปจนกว่าเพื่อนของเธอเท้าหายเป็นปรกติ
จะเห็นได้ว่า เรื่องกรรมและวิบากกรรมนี้ เป็นเรื่องที่วิจิตรมาก เพราะเหตุว่าเป็นเรื่องนามธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เราเกิดมาหลายภพหลายชาติ ได้กระทำกรรมทั้งดีและกรรมไม่ดีมาแล้วก็มากมายหลากหลาย ไม่สามารถที่จะระลึกได้ว่าทำอะไรมาบ้างในแต่ละชาติ แม้แต่ชาตินี้เราก็ยังไม่สามารถจำได้ว่า ได้กระทำอะไรบ้าง กรรมบางอย่างให้ผลในชาตินี้ บางอย่างให้ผลในชาติถัดไป บางอย่างให้ผลในหลาย ๆ ชาติ แล้วแต่เหตุปัจจัยและกาลเวลาพร้อมแล้วที่จะส่งผล ๆ ก็ย่อมจะปรากฏ โดยไม่มีผู้ใดจะสามารถยับยั้งได้ ดังตัวอย่างเพื่อนของคุณแจ๋ว ตั้งใจจะไปประกอบกรรมดี แต่ดันมาประสบกับอกุศลวิบากส่งผล อกุศลวิบากได้ส่งผลให้เป็นทุกข์กาย ทำให้ไม่สามารถที่จะไปกระทำกรรมดีใหม่ได้ ส่วนคุณแจ๋วนั้นก็ตั้งใจจะไปทำกรรมดี เพื่อที่จะได้อุทิศส่วนกุศล ให้แก่พวกหนูที่ตนได้เคยเบียดเบียนเขา แต่ว่าเหตุปัจจัยยังไม่พร้อม ที่จะได้กระทำกรรมดี ก็เลยยังไปไม่ได้ และพวกหนูก็เช่นกัน ยังไม่มีเหตุปัจจัยพร้อมที่จะได้บุญ ก็ต้องรอกันตอ่ไปจนกว่าจะมีเหตุปัจจัยพร้อม ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ทุกอย่างไม่มีใครบังคับบัญชาให้เป็นไปดังที่ตนปรารถนาได้ เพราะเหตุว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพื่อให้ทุกท่านใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท หมั่นฟังธรรมศึกษาธรรมเพื่อละความไม่รู้ และอบรมเจริญความเห็นถูกและความเข้าใจถูกให้มากขึ้น ก็จะประสบกับความสุขทั้งในภพนี้และภพหน้าได้ตามกำลังของกุศล.....เรื่องนี้ก็ยุติเพียงแค่นี้ ขอขอบคุณ คุณแจ๋วที่ยินดีให้เผยแพร่เรื่องนี้ ....แล้วพบกันอีกนะค่ะ
วันนี้ฉันก็มีเรื่องมาเล่าสู่กันอ่านอีก เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมและผลของกรรม พูดถึงเรื่องกรรม ทุกท่านก็รู้จักกันดีว่า "กรรม" หมายถึงการกระทำ ซึ่งมีการกระทำได้แค่ ๓ ทางเท่านั้น คือ ทางกาย ทางวาจาและทางใจ....คำว่า "กรรม" เป็นนามธรรม ไม่ใช่จิต แต่เป็น "เจตนาเจตสิก" มีลักษณะจงใจ ตั้งใจ ปรารถนา ขวนขวาย เจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง ทั้งกุศลจิตและอกุศลจิต....ชีวิตแต่ละวันหนีไม่พ้นกรรมและผลของกรรม ถ้าเป็นผู้ที่ละเอียด ก็จะสามารถสังเกตได้ แม้ขณะนี้กำลังเห็น ถ้าเห็นสิ่งที่ไม่น่ายินดีพอใจ ก็รู้ว่าเป็นผลของอกุศลกรรม ที่ได้กระทำไว้แล้ว หลังจากที่เห็นแล้ว ก็อาจจะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ได้ แล้วแต่จะพิจารณาขณะนั้น ชีวิตก็ดำเนินไปเช่นนี้ทุกวัน ทุกคนมีกรรมและผลของกรรมเป็นของ ๆ ตน
มีสมาชิกท่านหนึ่ง ยินดีที่จะเผยแพร่เรื่องกรรมและผลของกรรมที่ตนได้ประสบมาด้วยตนเอง....คุณแจ๋วเจ้าของเรื่องที่จะเล่านี้ อดีตเธอเคยเป็นนางพยาบาล อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิษณุโลก เธอเป็นคนสนใจและใฝ่ใจในธรรมท่านหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็มักจะไปเข้ากรรมฐานที่วัดกับเพื่อนเสมอ เพราะเธอเห็นประโยชน์ของพระธรรม จึงได้หันมาฟังธรรมและศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูก เพื่อความเห็นถูก และเพื่อละความไม่รู้ทีละน้อย จนทุกวันนี้เธอสามารถอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุข โดยมีธรรมะเป็นที่พึ่ง.....เธอได้เล่าว่า มีอยู่ระยะหนึ่งเธอได้เว้นว่าจากการไปเข้ากรรมฐานปฏิบัติธรรมที่วัด แล้วคืนวันหนึ่งเธอก็ได้ฝันเห็นพวกหนู ที่เธอเคยเบียดเบียนชีวิตพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเกิดสำนึกในบาปที่ตนได้กระทำไว้กับพวกหนูเหล่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะต้องไปเข้ากรรมฐานปฏิบัติธรรมที่วัดสักแห่ง เพื่อที่จะได้อุทิศส่วนกุศลให้แก่พวกหนูโดยเฉพาะ จึงได้โทรไปชวนเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเคยไปเข้ากรรมฐานด้วยกันมาแล้วหลายครั้ง เพื่อนเธอก็ได้ตกลงทันที่ที่คุณแจ๋วชักชวน ทั้งสองคนต่างก็ดีใจที่จะได้ไปสร้างบุญกุศลร่วมกันอีก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ได้มาตัดรอนการบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ซะก่อน เรื่องมีอยูว่า ก่อนวันที่จะไปเข้ากรรมฐาน ๑ วัน เพื่อนของคุณแจ๋วได้โทรมาบอกว่า เธอไม่สามารถจะไปเข้ากรรมฐานด้วยได้ เพราะเหตุว่าเมื่อวานได้ไปตลาด พอกลับถึงบ้าน เธอนึกได้ว่าลืมของไว้ที่ตลาด จึงได้กลับไปที่ตลาด อีกครั้ง พอไปถึงตลาดก็ไปโดนไม้เสียบลูกชิ้นที่วางอยู่บนถนน ทิ่มเข้าที่เท้าลึกมากบาดเจ็บไม่สามารถเดินได้ ต้องให้เวลารักษาหลายวันจึงจะเดินได้ เป็นอันว่าคุณแจ๋วก็ต้องเลื่อนการเข้ากรรมฐานให้หนู ไปจนกว่าเพื่อนของเธอเท้าหายเป็นปรกติ
จะเห็นได้ว่า เรื่องกรรมและวิบากกรรมนี้ เป็นเรื่องที่วิจิตรมาก เพราะเหตุว่าเป็นเรื่องนามธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เราเกิดมาหลายภพหลายชาติ ได้กระทำกรรมทั้งดีและกรรมไม่ดีมาแล้วก็มากมายหลากหลาย ไม่สามารถที่จะระลึกได้ว่าทำอะไรมาบ้างในแต่ละชาติ แม้แต่ชาตินี้เราก็ยังไม่สามารถจำได้ว่า ได้กระทำอะไรบ้าง กรรมบางอย่างให้ผลในชาตินี้ บางอย่างให้ผลในชาติถัดไป บางอย่างให้ผลในหลาย ๆ ชาติ แล้วแต่เหตุปัจจัยและกาลเวลาพร้อมแล้วที่จะส่งผล ๆ ก็ย่อมจะปรากฏ โดยไม่มีผู้ใดจะสามารถยับยั้งได้ ดังตัวอย่างเพื่อนของคุณแจ๋ว ตั้งใจจะไปประกอบกรรมดี แต่ดันมาประสบกับอกุศลวิบากส่งผล อกุศลวิบากได้ส่งผลให้เป็นทุกข์กาย ทำให้ไม่สามารถที่จะไปกระทำกรรมดีใหม่ได้ ส่วนคุณแจ๋วนั้นก็ตั้งใจจะไปทำกรรมดี เพื่อที่จะได้อุทิศส่วนกุศล ให้แก่พวกหนูที่ตนได้เคยเบียดเบียนเขา แต่ว่าเหตุปัจจัยยังไม่พร้อม ที่จะได้กระทำกรรมดี ก็เลยยังไปไม่ได้ และพวกหนูก็เช่นกัน ยังไม่มีเหตุปัจจัยพร้อมที่จะได้บุญ ก็ต้องรอกันตอ่ไปจนกว่าจะมีเหตุปัจจัยพร้อม ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ทุกอย่างไม่มีใครบังคับบัญชาให้เป็นไปดังที่ตนปรารถนาได้ เพราะเหตุว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพื่อให้ทุกท่านใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท หมั่นฟังธรรมศึกษาธรรมเพื่อละความไม่รู้ และอบรมเจริญความเห็นถูกและความเข้าใจถูกให้มากขึ้น ก็จะประสบกับความสุขทั้งในภพนี้และภพหน้าได้ตามกำลังของกุศล.....เรื่องนี้ก็ยุติเพียงแค่นี้ ขอขอบคุณ คุณแจ๋วที่ยินดีให้เผยแพร่เรื่องนี้ ....แล้วพบกันอีกนะค่ะ