พวกราอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์มานานไม่เคยได้ยินเรื่องแก้งคอนเซนเตอร์มาก่อน จึงทำให้พวกเราถูกหลอกได้ง่ายมาก
หลังจากที่ทราบว่าโดนหลอก ผู้เขียนไม่ปล่อยให้เสียเวลากับความตื่นเต้นตกใจแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว รีบโทรแจ้งทางธนาคารให้ระงับบัญชีของผู้เขียนและของน้องสาวทันที ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารก็รีบทำตามความประสงค์ของผู้เขียนอย่างรวดเร็วทันใจ จากนั้นเราก็รีบไปธนาคาร โชคดีเห็นเพื่อนบ้านกำลังขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน ผู้เขียนจึงรี่เข้าไปทักทายเขา แล้วเล่าเรื่องคอนเซ็นเตอร์ให้ฟังทั้งหมด ได้ขอร้องให้เขาช่วยขับรถไปส่งที่ธนาคาร เขาก็ยินดีรีบขับรถไปโดยเร็ว เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเราสองคนที่ถูกหลอกซะอีก ระหว่างทางผู้เขียนพยายามทำสมาธิเพื่อรวบรวมพลังสติ วันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนมากในช่วงบ่าย ถ้าเราเดินไปขึ้นรถบัสก็จะเสียเวลาประมาณ 20 นาที ก็นับว่าเราโชคดีในระดับหนึ่งล่ะ พอไปถึงธนาคารเพื่อนบ้านอาสาจะช่วยพูดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ ผู้เขียนได้บอกเธอว่าเราพูดกันเองได้ เพื่อนบ้านคนสวิสใจดีมากและน่ารักเสมอค่ะ
ผู้เขียนได้ไปแจ้งรายละเอียดให้ทางเจ้าหน้าที่ทางธนาคารรับทราบแล้วถามเขาว่า เรามีโอกาสที่จะได้เงินคืนไหมเพราะได้แจ้งให้ระงับบัญชีทันที เขาตอบว่าไม่มีโอกาสได้เงินคืนเพราะว่าเป็นความผิดของผู้เขียนที่ทำการโอนเงินทั้งหมดเอง ผู้เขียนได้เถียงวว่า "เราไม่ได้ทำการโอนให้เขาแต่เขาโอนเงินฉันไปเองทั้งหมด" เขาย้ำอีกครั้งว่า "ยังไงคุณก็ไม่ได้เงินคืนหรอกครับ" แต่เขาก็ยังหวังดีกับพวกเรา เขาได้แนะนำให้นำใบสำเนาการโอนเงินทั้งหมดนี้ไปแจ้งตำรวจ เราก็รีบไปหาตำรวจทันที
เราอยู่ที่นี่เป็นเวลานานก็จริง พอเกิดเหตุการณ์ตื่นเต้นเราก็ลืมหมดเเลยว่า สถานีตำรวจอยู่ตรงไหน เดินหากันจนเหนื่อย วันนั้นเราไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันกันเลย แต่มีกำลังมาก เดินไปเรื่อยๆ จนบังเอิญเจอนายตำรวจท่านหนึ่งกำลังตรวจรถที่จอดอยู่ข้างถนน ผู้เขียนได้รี่เข้าไปถามว่าสถานีตำรวจอยู่ที่ไหน เขาบอกว่าอยู่ตรงข้ามโบสถ์ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ ที่ไหนได้อยู่ในใจกลางเมืองใกล้ๆ นี่เอง
กว่าจะได้เข้าไปในสถานีตำรวจ ต้องรอให้คนที่อยู่ในห้องนั้นออกมาก่อน แล้วคนต่อไปจึงจะเข้าไปได้ ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัต ผู้เขียนได้นำสำเนาการโอนเงินไปยื่นให้นายตำรวจท่านหนึ่ง ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เขาลงบันทึกประจำวันไว้ เขาบอกว่ามีหลายเคสมากที่เจอแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เงินคืนเพราะพวกแก้งจะรีบโอนเงินไปต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ผู้เขียนได้เอาเบอร์โทรของพวกแก้งแก่นายตำรวจ เขาบอกว่าพวกแก้งมีเบอร์โทรเยอะมาก เขาลองโทรไปก็ไม่มีเสียงตอบจากปลายทาง ก่อนที่เราจะลากลับทางนายตำรวจได้บอกว่า "ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบนะครับ" เราก็ขอบคุณแล้วลากลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้านได้มีโทรศัพท์จากธนาคารโทรมาหาผู้เขียน ผู้จัดการธนาคารฝ่ายส่วนบุคคล ท่านผู้นี้ผู้เขียนได้รู้จักเขาเมื่อปีที่แล้ว เขาเป็นชาวศรีลังกาเป็นคนหนุ่มที่เพิ่งจะเข้ามาทำงาน เขาต้องการทราบข้อมูลอย่างละเอียดว่า เหตุการณ์เริ่มต้นอย่างไร สรุปแล้วเขาบอกว่า เขามีทีมงานที่ทำหน้าที่โดยเฉพาะเกี่ยวกับการล่าเงินจากพวกแก้งคอลเซ็นเตอร์ แล้วเขาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งถ้ามีอะไรคืบหน้า ผู้จัดการท่านนี้เป็นกันเองดีมากเสมอต้นเสมอปลาย
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไม่มีข่าวจากทางธนาคารและจากทางตำรวจเลย ผู้เขียนและน้องสาวจึงได้ไปพบตำรวจอีกครั้ง คราวนี้ตำรวจที่ทำหน้าที่รับแจ้งความเป็นผู้หญิง เราก็เข้าไปแจ้งว่าเราได้มาแจ้งความเรื่องแก้งคอลเซ็นเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อยากทราบว่าเรื่องราวดำเนินไปถึงไหนแล้ว เธอถามว่าแจ้งไว้กับท่านใด ตอนนั้นเราตื่นเต้นเลยขาดสติ ไม่ได้จดชื่อนายตำรวจท่านนั้นไว้ เลยต้องแจ้งความใหม่อีกครรั้งหนึ่ง เธอบอกว่าเรื่องนี้ต้องส่งไปที่ศูนย์กลางตำรวจไซเบอร์ที่นครหลวงกรุงเบอร์น คงต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะทราบผล เธอได้บอกอีกว่าเคสเช่นนี้มีเยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เงินคืนเพราะว่าพวกแก้งจะโอนเงินไปยังแถบอัฟริกาทันที
(กรุณาติดตามตอนต่อไปนะคะ)