วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

โดนแก้งคอลฯ หลอก (ตอน๒)

 พวกราอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์มานานไม่เคยได้ยินเรื่องแก้งคอนเซนเตอร์มาก่อน จึงทำให้พวกเราถูกหลอกได้ง่ายมาก

หลังจากที่ทราบว่าโดนหลอก ผู้เขียนไม่ปล่อยให้เสียเวลากับความตื่นเต้นตกใจแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว รีบโทรแจ้งทางธนาคารให้ระงับบัญชีของผู้เขียนและของน้องสาวทันที ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารก็รีบทำตามความประสงค์ของผู้เขียนอย่างรวดเร็วทันใจ จากนั้นเราก็รีบไปธนาคาร โชคดีเห็นเพื่อนบ้านกำลังขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน ผู้เขียนจึงรี่เข้าไปทักทายเขา แล้วเล่าเรื่องคอนเซ็นเตอร์ให้ฟังทั้งหมด ได้ขอร้องให้เขาช่วยขับรถไปส่งที่ธนาคาร เขาก็ยินดีรีบขับรถไปโดยเร็ว เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเราสองคนที่ถูกหลอกซะอีก ระหว่างทางผู้เขียนพยายามทำสมาธิเพื่อรวบรวมพลังสติ วันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนมากในช่วงบ่าย ถ้าเราเดินไปขึ้นรถบัสก็จะเสียเวลาประมาณ 20 นาที ก็นับว่าเราโชคดีในระดับหนึ่งล่ะ พอไปถึงธนาคารเพื่อนบ้านอาสาจะช่วยพูดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ ผู้เขียนได้บอกเธอว่าเราพูดกันเองได้ เพื่อนบ้านคนสวิสใจดีมากและน่ารักเสมอค่ะ 

ผู้เขียนได้ไปแจ้งรายละเอียดให้ทางเจ้าหน้าที่ทางธนาคารรับทราบแล้วถามเขาว่า เรามีโอกาสที่จะได้เงินคืนไหมเพราะได้แจ้งให้ระงับบัญชีทันที เขาตอบว่าไม่มีโอกาสได้เงินคืนเพราะว่าเป็นความผิดของผู้เขียนที่ทำการโอนเงินทั้งหมดเอง ผู้เขียนได้เถียงวว่า "เราไม่ได้ทำการโอนให้เขาแต่เขาโอนเงินฉันไปเองทั้งหมด" เขาย้ำอีกครั้งว่า "ยังไงคุณก็ไม่ได้เงินคืนหรอกครับ" แต่เขาก็ยังหวังดีกับพวกเรา เขาได้แนะนำให้นำใบสำเนาการโอนเงินทั้งหมดนี้ไปแจ้งตำรวจ เราก็รีบไปหาตำรวจทันที 

เราอยู่ที่นี่เป็นเวลานานก็จริง พอเกิดเหตุการณ์ตื่นเต้นเราก็ลืมหมดเเลยว่า สถานีตำรวจอยู่ตรงไหน เดินหากันจนเหนื่อย วันนั้นเราไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันกันเลย แต่มีกำลังมาก เดินไปเรื่อยๆ จนบังเอิญเจอนายตำรวจท่านหนึ่งกำลังตรวจรถที่จอดอยู่ข้างถนน ผู้เขียนได้รี่เข้าไปถามว่าสถานีตำรวจอยู่ที่ไหน เขาบอกว่าอยู่ตรงข้ามโบสถ์ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ ที่ไหนได้อยู่ในใจกลางเมืองใกล้ๆ นี่เอง 

กว่าจะได้เข้าไปในสถานีตำรวจ ต้องรอให้คนที่อยู่ในห้องนั้นออกมาก่อน แล้วคนต่อไปจึงจะเข้าไปได้ ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัต ผู้เขียนได้นำสำเนาการโอนเงินไปยื่นให้นายตำรวจท่านหนึ่ง ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เขาลงบันทึกประจำวันไว้ เขาบอกว่ามีหลายเคสมากที่เจอแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เงินคืนเพราะพวกแก้งจะรีบโอนเงินไปต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ผู้เขียนได้เอาเบอร์โทรของพวกแก้งแก่นายตำรวจ เขาบอกว่าพวกแก้งมีเบอร์โทรเยอะมาก เขาลองโทรไปก็ไม่มีเสียงตอบจากปลายทาง ก่อนที่เราจะลากลับทางนายตำรวจได้บอกว่า "ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบนะครับ" เราก็ขอบคุณแล้วลากลับบ้าน 

เมื่อกลับมาถึงบ้านได้มีโทรศัพท์จากธนาคารโทรมาหาผู้เขียน ผู้จัดการธนาคารฝ่ายส่วนบุคคล ท่านผู้นี้ผู้เขียนได้รู้จักเขาเมื่อปีที่แล้ว เขาเป็นชาวศรีลังกาเป็นคนหนุ่มที่เพิ่งจะเข้ามาทำงาน เขาต้องการทราบข้อมูลอย่างละเอียดว่า เหตุการณ์เริ่มต้นอย่างไร สรุปแล้วเขาบอกว่า เขามีทีมงานที่ทำหน้าที่โดยเฉพาะเกี่ยวกับการล่าเงินจากพวกแก้งคอลเซ็นเตอร์  แล้วเขาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งถ้ามีอะไรคืบหน้า ผู้จัดการท่านนี้เป็นกันเองดีมากเสมอต้นเสมอปลาย 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไม่มีข่าวจากทางธนาคารและจากทางตำรวจเลย ผู้เขียนและน้องสาวจึงได้ไปพบตำรวจอีกครั้ง คราวนี้ตำรวจที่ทำหน้าที่รับแจ้งความเป็นผู้หญิง เราก็เข้าไปแจ้งว่าเราได้มาแจ้งความเรื่องแก้งคอลเซ็นเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อยากทราบว่าเรื่องราวดำเนินไปถึงไหนแล้ว เธอถามว่าแจ้งไว้กับท่านใด ตอนนั้นเราตื่นเต้นเลยขาดสติ ไม่ได้จดชื่อนายตำรวจท่านนั้นไว้ เลยต้องแจ้งความใหม่อีกครรั้งหนึ่ง เธอบอกว่าเรื่องนี้ต้องส่งไปที่ศูนย์กลางตำรวจไซเบอร์ที่นครหลวงกรุงเบอร์น คงต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะทราบผล เธอได้บอกอีกว่าเคสเช่นนี้มีเยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เงินคืนเพราะว่าพวกแก้งจะโอนเงินไปยังแถบอัฟริกาทันที

(กรุณาติดตามตอนต่อไปนะคะ)


วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

โดนแก้งคอลฯหลอก (ตอน๑)


ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน ชีวิตคนเราก็ไม่แน่นอน บางช่วงรุ่งโรจน์สวยงามและสุขสบาย บางช่วงตกต่ำเตี้ยเรี่ยดินจะกินก็แทบจะไม่มีแถมยังมีหนี้สินรกรุงรัง โลกปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปและพัฒนาไปไกลมากจนเราตามไม่ทัน ด้านวัตถุและเทคโนโลยี่เจริญก้าวไกลมาก แต่ด้านจิตใจมนุษย์กลับเสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน สังคมเต็มไปด้วยความวุ่นวายมีฐานะแตกต่างเหลื่อมล้ำกันมาก สังคมครอบครัวขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่มีเวลาให้การอบรมสั่งสอนและดูแลลูก ทำให้เด็กเติบโตอย่างไม่มีคุณภาพเท่าที่ควรจะเป็น ด้านการเรียนการศึกษาเจริญมากแต่ไม่เน้นด้านศีลธรรมจริยธรรม ขาดคุณธรรม จึงทำให้มีการประกอบกรรมทำชั่วอย่างไม่ละอายเกรงกลัวต่อบาป 

ปัจจุบันนี้มีการประกอบอาชีพทุจริตมากมายเสมือนโรคร้ายระบาดยากที่จะขจัดหรือปราบปรามให้สิ้นซากหมดไปจากโลกนี้ได้ จนกลายเป็นภัยของสังคม ทุกวันนี้หลายคนทั่วโลกประกอบอาชีพออนไลน์เพราะเป็นช่องทางที่ทำรายได้ดีอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบางพวกที่อาศัยการทำธุรกิจออนไลน์เพื่อหลอกลวงผู้อื่น บางพวกร้ายกว่านี้มาในรูปสอนทำการธุรกิจค้าขายหุ้นออนไลน์ ยิ่งร้ายและน่ากลัวกว่านี้ก็คือพวกคอลเซนเตอร์ 

วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์โดนหลอกจากพวกมิจฉาชีพออนไลน์ นำมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ท่านผู้อ่านค่ะ บางท่านอาจจะมีประสบการณ์ที่คล้ายๆ กับของผู้เขียน ท่านสามารถนำมาแชร์สู่กันฟังได้นะคะ

ปัจจุบันผู้เขียนอาศัยอยู่ในประทศสวิตเซอร์แลนด์มาเป็นเวลา 43 ปี อายุ 72 ปี ไม่เคยมีชีวิตตกต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก่อน เพิ่งจะได้สัมผัสกับความยากลำบากก็เมื่อโดนแก้งคอลเซนเตอร์หลอกนี่แหละ มันเป็นกรรมของผู้เขียนเองที่มีความอยากรู้อยากเห็นและความโลภ จึงได้สูญเสียเงินจนหมดบัญชี ซึ่งเป็นเงินที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิตเพื่อจะเอาไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตที่เมืองไทย มันเป็นความฝันสุดท้ายที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตอีกครั้งหนึ่งที่บ้านเกิดเมืองนอนของตน

เช้าวันหนึ่งหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ผู้เขียนได้ออกเดินเล่นในสวนเป็นการย่อยอาหาตามปกติ มีโทรศัพพท์มือถือติดตัวไปด้วย เผื่อว่าจะมีโทรฯ สำคัญที่กำลังรออยู่เข้ามาจะได้ไม่พลาด เดินในสวนยังไม่ถึง 5 นาที ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผู้พูดทักทายเป็นภาษาเยอรมันสำเนียงอิตาเลี่ยน น้ำเสียงเป็นกันเองและสุภาพมาก ดูเหมือนกับว่าเราเคยรู้จักันมานาน ผู้เขียนจึงถามไปว่าคุณโทรมาจาก....(ชื่อสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง) ใช่ไหมคะ เขาตอบว่า "ผมโทรมาจากบริษัททำการซื้อขายหุ้นออนไลน์ คุณได้เปิดเพลสเทรดดิ้งไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้มีเงินในบัญชีเป็นจำนวนมาก คุณกรุณาไปเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณเช็คดูได้เลยครับ" ฉันตื่นเต้นและดีใจมากจึงได้รีบเข้าบ้านไปเปิดคอมพิวเตอร์ดู เขาบอกว่าให้เปิดวีดิโอคอลด้วย ผู้เขียนก็ทำตามที่เขาบอกอย่างรวดดเร็ว พอเปิดคอมพิวเตอร์เสร็จเขาบอกว่าต้องเปิดแพลตฟอร์มใหม่จึงจะเห็นจำนวนเงินที่จะได้ 

เมื่อเปิดแพลตฟอร์มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าตอนนี้จะโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้เขียนและบอกว่าต้องทำ E-Banking ฉันก็รีบนำบัตร E-Banking มาเปิด เสร็จแล้วก็จะมีผู้ชายอีกคนหนึ่งมาทำหน้าที่โอนเงินเข้าบัญชี ขณะนั้นผู้เขียนก็คิดว่าเงินจำนวนมากเกินอาจทำให้มีปัญหาเรื่องภาษี จึงบอกเขาว่าให้โอนเข้าบัญชีของน้องสาวด้วย เขาก็ทำการโดนให้บัญชีน้องสาว เราใช้เวลาทำการเปิดแพลตฟอร์มและโอนเงินตั้งแต่เวลา 11.15 น. จนถึง 13.30 น. พอเสร็จเรียบร้อย ผู้เขียนก็รีบปิดคอมพิวเตอร์ ยังรู้สึกตื่นเต้นดีใจมากอยากจะเห็นจำนวนเงินในบัญชีว่ามีเท่าไหร่

พอเปิดบัญชีดูแทบช็อคเป็นลม ที่เห็นเงินในบัญชีไม่เหลือเลยทั้งบัญชีของน้องสาวด้วย ได้แต่คิดว่ามันเป็นไปได้อย่างไรนี่

(โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ)