จิ้งจกเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ในสกุลHemidactylus พบมากในแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และแพร่พันธุ์ไปทั่วโลก สำหรับจิ้งจกที่พบบ่อยในประเทศไทย คือ จิ้งจกหางแบน เป็นสัตว์ 4 เท้า มีลำตัวขนาดเล็ก ลำตัวแบน หัวสั้นและมีหาง ไม่มีม่านตา โดยเฉลี่ยจะมีลำตัวยาว 3 นิ้ว ถ้าตัวเต็มวัยก็จะยาวถึง 5 นิ้ว มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม ลิ้นสั้นแต่ยืดออกได้ ผิวหนังค่อนข้างละเอียด ตัวมักมีสีขาวหรือคล้ำ สามารถปรับตัวให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม เท้าเหนียวช่วยให้ไต่ไปตามข้างฝาหรือเพดานได้ มักอาศัยอยู่ตามบ้านเรือน มีอายุประมาณ 5-10 ปี การงอกใหม่ของหางจิ้งจกใช้เวลา 2-6 สัปดาห์ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของหางที่หายไป ขยายพันธุ์ด้วยออกลูกเป็นไข่ ตัวเมียจะออกไข่ครั้งละ 2 ฟอง มีความกว้าง 0.5-0.9 เซนติเมตร มีความยาวประมาณ 0.6-1.0 เซนติเมตร ใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 50-65 วัน หลังออกจากท้องของตัวเมีย
จิ้งจกเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ใกล้ชิดกับคนเรามาก พบได้ตามบ้านเรือน มักจะออกหากินแมลงตามแหล่งไฟ ข้อดีของจิ้งจกก็คือ ช่วยกินแมลงเม่า ที่เป็นเหตุให้เกิดปลวกขึ้นบ้าน ข้อเสียก็คือ จิ้งจกมักร้องเสียงดังช่วงดึกๆ และถ่ายมูลติดเปื้อนข้าวของ ทำให้เกิดความสกปรกและเป็นที่น่ารังเกียจ หลายคนอาจเคยเจอกลิ่นเน่า หลังจากที่จิ้งจกเข้าไปตายอยู่ในเครื่องไฟฟ้าหรือซอกหลืบ
เราได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับจิ้งจกอย่างคร่าวๆ แล้วนะคะ ทีนี้ผู้เขียนก็จะเล่าเรื่องกรรมกับจิ้งจกให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน เพื่อที่ท่านจะได้ไม่เผลอไปทำบาปกับจิ้งจก เหมือนอย่างผู้เขียนได้เคยกระทำมาแล้วเมื่อครั้งยังเด็กๆ ไร้เดียงสา
คนบ้านนอกสมัยเมื่อ 60 กว่าปีมาแล้ว มีความเชื่อว่าจิ้งจกเป็นยาแก้โรคพยาธิ พอมีลูกกำลังโตพอเดินได้ก็จะพยายามหาจิ้งจกมาปิ้งให้สุก แล้วให้เด็กกินทุกวัน เด็กไม่รู้อะไรผู้ใหญ่ให้กินก็กินเป็นประจำ ผู้เขียนมีน้องเพิ่งเริ่มหัดเดินเต๊าะแตะ แม่จะสั่งให้ผู้เขียนกับน้องคนรอง เราอายุไร่เรี่ยกัน คือ 8 ขวบ กับ 6 ขวบ ส่วนน้องคนเล็กขวบเศษ พอค่ำลงเราสองคนพี่น้องก็จะออกตีจิ้งจกตามผนังตึกอย่างสนุกสนาน ส่วนใหญ่ผู้เขียนจะตีได้แม่นยำมากกว่าน้องสาว ทำด้วยความภูมิใจด้วยล่ะ แหล่งที่มีจิ้งจกมากสมัยนั้นก็คือ สำนักงานเทศกาลซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เราอยู่บ้านพักข้าราชการ เราออกตีจิ้งจกเป็นเรื่องสนุกไปเลย ผู้ใหญ่สั่งให้ทำเราก็ทำตามคำสั่ง ไม่ได้นึกถึงเวรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น เพราะความที่กลัวผู้ใหญ่จะดุถ้าเราไม่ทำก็ไม่ได้ จำเป็นต้องทำบาปฆ่าจิ้งจกวันละหลายตัว จนบางวันจิ้งจกกลัวไม่กล้าแม้จะโผล่หัวออกมาจากที่อยู่ เพราะถ้าออกมาให้เราเห็นตัว ต้องไม่รอดแน่ แต่จิ้งจกก็ไม่โง่นะ เขาจะพากันออกมาตอนที่เราไม่อยู่ในที่นั้น บางครั้งเราก็ใช้วิธีแอบอยู่จนจิ้งจกเผลอก็ใช้ไม้ฟาดทันที บางวันพวกเขาก็ไม่ค่อยลงมาต่ำๆ ให้เราตีได้
ความเชื่อแบบผิดๆ ทำให้เกิดการกระทำที่ผิดๆ จึงส่งผลให้เป็นเวรเป็นกรรม มีความทุข์เป็นกำไร พอเวลาล่วงไปประมาณ 5 ปี ผู้เขียนก็เริ่มมีอาการอักเสบตามข้อมือและนิ้วมือทีละข้อ จนในที่สุดมือบวมทั้งสองมือ เจ็บปวดทรมานมาก หมอบอกว่าเป็นโรครูมาตอยด์ ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นั้นมาสุขภาพก็เริ่มอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อยมาก พอพระอาทิตย์ตกดินเริ่มค่ำก็จะมีอาการเจ็บปวดที่มือ ผู้เขียนได้เทียวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะที่นั่นมีคลีนิคเฉพาะโรค หมดค่ารักษาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เพียงแค่โรคสงบเป็นพักๆ พอโรคสงบลักษณะของมือก็เปลี่ยนไป นิ้วทั้งสิบคดงอบิดเบียว นิ้วมือไม่สามารถเหยียดให้ตรงได้เหมือนเดิม ฝ่ามือก็ไม่เรียบ ดูแล้วมันเหมือนเท้าจิ้งจกมากเลย มือสองข้างนี้เตือนใจผู้เขียนอยู่เสมอว่า นี่แหละผลของความกล้าหาญตอนเด็กๆ จึงได้มีมือที่น่าเกลียดตลอดชีวิต
ส่วนน้องสาวคนรองที่ร่วมกันทำวีรกรรมล่าจิ้งจก ก็ได้รับผลกรรมหนักไม่แพ้กัน เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้แดด แพ้เหงื่อ แพ้ฝุ่นละอองและแพ้เกสรดอกไม้ พอค่ำมาก็จะมีอาการคันมากตามตัว ทำให้ไม่ค่อยได้นอน ต้องกินยาระงับอาการคัน ทุกวันนี้ก็ยังไม่หายเป็นปกติ หมดค่ารักษาไปมาก แต่ก็ไม่มีทีท่าจะหายขาด ก็ต้องทนทุกข์ทรมานมาจนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่หายเป็นปกติ
น้องสาวคนเล็กที่ได้กินจิ้งจกปิ้งทุกวันอย่างเอร็ดอร่อย ก็ได้รับผลกรรมไม่น้อยไปกว่าเราสองคน พอเขาเริ่มย่างเข้าวัยรุ่น ก็จะเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง อยู่ดีๆ ก็มีอาการคันที่เหนือข้อเท้าข้างขวา เป็นผื่นแดงอักเสบพอแตกเป็นน้ำใสๆ ก็จะลามขยายพื้นที่กว้างขึ้น มีอาการปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกไฟลวก ใช้เวลารักษาอยู่นาน พอแห้งก็จะเป็นแผลเป็นสีดำเหมือนถูกไฟไหม้ เป็นแผลเป็นที่น่าเกียจมากๆ จนเขาไม่สามารถใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นได้ตลอดชีวิต
ผลกรรมของแม่ผู้เขียนก็ไม่เบากว่าลูกๆ เพราะความเห็นผิดมีความคิดผิดๆ แม่เป็นโรคเบาหวานตลอดชีวิต ตาข้างขวาค่อยๆเล็กลง จนในที่สุดก็แทบจะมองไม่เห็น แม่ไม่เคยไปตรวจเช็คตาเลย เพราะถือว่ายังมีตาอีกข้างที่ยังมองเห็น แต่ก็เห็นเพียงลางๆ เท่านั้น
ท่านผู้อ่านค่ะ กรรมเป็นเรื่องซื่อสัตย์มาก เราทำกรรมใดไว้ เราก็จะต้องเป็นผู้เสวยผลแห่งกรรมนั้น
นัตถิ กัมมัง สม พลัง แรงใดในโลกเสมอด้วยแรงกรรมไม่มี
สัตว์ทั้งหลายจะดีหรือชั่วย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของตน ด้วยเหตุนี้ สัตว์ทั้งหลายจึงมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท จึงจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในภพภูมิต่างๆ มีกรรมเป็นกำเนิด คือกรรมที่ได้กระทำแล้ว จะติดตามไปทุกหนทุกแห่ง จะไม่สูญหายไปไหนเลยค่ะ
ขอบคุณพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
....................................